รีไฟแนนซ์บ้าน คือ อะไร?
รีไฟแนนซ์บ้าน มักนิยมใช้ในวงการอสังหาฯ หมายถึง การกู้ยืมสินเชื่อก้อนใหม่จากธนาคารที่เราเป็นหนี้ผ่อนชำระอยู่เดิม หรือจะทำเรื่องกู้เงินจากธนาคารใหม่มาโปะหนี้ธนาคารเดิมก็ได้ ส่วนใหญ่จะใช้กับการผ่อนบ้าน คอนโดฯ เช่น กู้บ้าน 5 ล้าน จะผ่อน 10 ปี ผ่อนไปได้ 3 ปีแรก เกิดปัญหา หมุนเงินมาผ่อนไม่ทัน เลยยื่นเรื่อง ขอ รีไฟแนนซ์บ้าน กับธนาคารเดิม (หรือธนาคารใหม่ก็ได้) เพื่อให้ช่วยขยายระยะเวลาผ่อนที่เหลืออยู่ให้ยาวนานขึ้น จะได้ผ่อนค่างวดน้อยลง พูดง่ายๆ คือ “ทำเรื่องกู้ใหม่อีกรอบ” เพื่อให้ได้ค่างวดและดอกเบี้ยที่)ถูกลงนั่นเอง
*สิ่งสำคัญที่ควรทราบ ก็คือ รีไฟแนนซ์บ้าน ไม่จำเป็นต้องรอให้ผ่อนไม่ไหวเสียก่อนถึงจะทำได้ แต่สามารถทำได้เรื่อยๆทุกรอบ 3 ปี(ข้อกำหนดจากธนาคาร) เพราะมีแรงจูงใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงด้วย
.
รีไฟแนนซ์บ้าน ไปทำไม
โดยปกติทั่วไปแล้ว กลยุทธ์ในการลดดอกเบี้ย ก็คือ การเพิ่มเงินและจำนวนค่างวด แต่ก็มีอีกช่องทางหนึ่ง ที่ลูกหนี้นิยมใช้เป็นเทคนิคในการลดดอกเบี้ยกัน นั่นก็คือ การ รีไฟแนนซ์บ้าน (จริงๆ แล้วจะเรียก รีไฟแนนซ์ คอนโดฯ รีไฟแนนซ์ รถ ก็ได้ แล้วแต่สิ่งที่เรากำลังเป็นหนี้ผ่อนชำระอยู่) เพราะว่ามันช่วยลดอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มระยะเวลากู้ เพื่อให้เราส่งค่างวดต่อเดือนได้น้อยลง (ผ่อนนานขึ้น)
*สิ่งสำคัญที่ควรทราบ ก็คือ อัตราดอกเบี้ยของทุกธนาคารจะราคาถูกแค่ 3 ปีแรกเท่านั้น เนื่องจากโปรโมชั่นของสินเชื่อบ้าน แต่หลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ยจะแพงขึ้นเป็นเท่าตัว(จริงๆ แล้วนั่นคือ อัตราปกติ) ลูกค้าจึงใช้วิธีเปลี่ยนย้ายธนาคารไปหาเจ้าที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า โดยการ รีไฟแนนซ์บ้าน (แบบไม่กู้เพิ่ม)นั่นเอง
.
รีไฟแนนซ์บ้าน สิ่งที่ต้องรู้
.
1. รีไฟแนนซ์บ้าน ต้องรู้นโยบายของแต่ละธนาคาร และข้อกฏหมายด้านการเงินให้ชัดเจน อาทิเช่น (โปรโมชั่น)ดอกเบี้ยใน 3 ปีแรก อัตราดอกเบี้ยประเภท MLR และ MRR เงื่อนไขของแต่ละธนาคารว่าให้กู้ได้ร้อยละเท่าไหร่ของราคาประเมิน เป็นต้น
2. รีไฟแนนซ์บ้าน ต้องรู้ค่าใช้จ่ายโดยรวมทั้งหมด ยิ่งเคาะเป็นตัวเลขในอนาคตล่วงหน้าได้ละเอียดเท่าไหร่ ยิ่งมีผลประโยชน์เรามากเท่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปนั้น ในเว็บไซด์ของแต่ละธนาคาร จะมีโปรแกรมคำนวณค่าใช้จ่าย คอยบริการลูกค้าอยู่แล้ว
.
2.1 ถ้า รีไฟแนนซ์บ้าน กับธนาคารเดิมโดยที่ยังไม่ครบกำหนด 3 ปี จะมีค่าปรับประมาณ 0-3 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินกู้
2.2 อัตราดอกเบี้ย MLR ของแต่ละธนาคาร โดยปกติอยู่ที่อัตราเฉลี่ยร้อยละ 7
2.3 ค่าประเมินราคาทรัพย์สิน ของแต่ละธนาคารไม่เท่ากัน (ร้อยละ 0.25 – 2) บางกรณีที่ รีไฟแนนซ์บ้าน กับธนาคารเดิมอาจไม่ต้องเสียค่าประเมินนี้
2.4 ค่าธรรมเนียมในการปล่อยกู้ ธนาคารส่วนใหญ่จะคิดประมาณ 0 – 3% ของวงเงินกู้ บางแห่งไม่คิด
2.5 ค่าอากรแสตมป์ คิดเท่ากันทุกธนาคาร 0.05 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินกู้ใหม่
2.6 ค่าจำนองที่ดิน คิดเป็น 1 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินที่ขอกู้ เท่ากันทุกธนาคาร จ่ายให้กับกรมที่ดิน และไม่ต้องจ่ายหาก รีไฟแนนซ์บ้าน กับธนาคารเดิม
2.7 ค่าทำประกัน หรือค่าบริการอื่นๆ แล้วแต่นโยบายของธนาคาร ส่วนใหญ่จะใช้คำว่า “ค่าประกันอัคคีภัย”
*สิ่งสำคัญที่ควรทราบ ก็คือ ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ทั้งหมดเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 2.3% โดยเฉลี่ยและอาจสูงได้ถึง 4.3% ของวงเงินที่รีไฟแนนซ์ในบางกรณี เราสามารถประหยัดค่าธรรมเนียมในการจำนอง (1%) ได้ถ้ารีไฟแนนซ์กับที่เดิม ค่าใช้จ่ายบางข้อเป็นค่าคงที่เท่ากันทุกธนาคาร และบางข้อคิดเป็นมูลค่าน้อยมากเมื่อเทียบกับข้ออื่น ไม่ควรเอามาใช้เป็นปัจจัย
3. รีไฟแนนซ์บ้าน ต้องรู้เอกสารสำคัญทั้งหมดที่ใช้ในการยื่นว่ามีอะไรบ้าง
3.1 เอกสารที่แสดงข้อมูลทั่วไปของตนเอง เช่น สำเนาบัตรประชาชน/สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมฉบับจริง
3.2 ใบรับรองเงินเดือน หรือ หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการข้อตกลง และนำสลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับรองเงินเดือนปัจจุบัน 3 เดือน ย้อนหลังมาแสดง โดยเอกสารในข้อนี้ทุกอย่าง ขอฉบับจริงทั้งสิ้น
3.3 หาก รีไฟแนนซ์บ้าน แบบไถ่ถอน ให้นำใบเสร็จการผ่อนชำระย้อนหลัง 24 เดือน มาด้วย
3.4 สำเนาบัญชีเงินฝากแสดงรายการย้อนหลัง 6 เดือน และหลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่น ๆ พร้อมฉบับจริง หรือ Statement พร้อมเซ็นต์รับรอง
3.5 กรณีประกอบอาชีพส่วนตัว นำสำเนาใบประกอบวิชาชีพ หรือ ใบอนุญาตประกอบการ มาด้วย
กรณีประกอบธุรกิจ นำสำเนาทะเบียนการค้า หรือทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนห้างหุ้นส่วนฯ พร้อมยื่นหลักฐานการเสียภาษีเงินได้ แนบใบเสร็จตัวจริงจากกรมสรรพากร ย้อนหลัง 6 เดือน มาด้วย (อย่าลืมรูปถ่ายกิจการ จำนวน 3-4 รูป)
3.6 สำเนาโฉนดที่ดิน/นส.3ก/หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด/อช.2(2ชุด) พร้อมรับรองจาก สนง.ที่ดิน
4. รีไฟแนนซ์บ้าน ต้องรู้ขั้นตอนโดยภาพรวมทั้งหมดว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ในที่นี้ขอยกตัวอย่าง ขั้นตอนของการ รีไฟแนนซ์บ้าน ผ่านธนาคารใหม่ ดังนี้
4.1 ติดต่อขอเอกสารสรุปยอดหนี้เงินกู้กับธนาคารเก่า (อาจจะมีค่าใช้จ่าย แล้วแต่นโยบายของแต่ละธนาคาร)
4.2 นำเอกสารสรุปยอดหนี้ที่ได้มา ไปยื่นเพื่อทำเรื่องกู้กับธนาคารแห่งใหม่ที่เราคิดพิจารณามาดีแล้ว ว่าธนาคารแห่งนี้เหมาะสมที่จะ รีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งขอแนะนำว่าให้ยื่นหลายๆ แห่งพร้อมกัน เนื่องจากแต่ละธนาคารจะใช้เวลาดำเนินการไม่เท่ากัน เราต้องเพิ่มตัวเลือกไว้เป็นช่องทางของเรา
4.3 ทางธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินทรัพย์สินของเรา ในขั้นตอนนี้จะคล้ายกันกับตอนที่ยื่นกู้ครั้งแรก
4.4 ถ้าทำเรื่องผ่านการอนุมัติ ให้ติดต่อไปยังธนาคารเก่าที่เป็นเจ้าหนี้เดิมของเรา สำหรับการนัดวันไถ่ถอนที่สำนักงานที่ดินธนาคารเดิมจะสรุปยอดหนี้ให้อีก 1 ครั้ง พร้อมทั้งบอกชื่อผู้รับมอบอำนาจของทางธนาคารซึ่งจะไปทำนิติกรรมที่สำนักงานที่ดิน เราต้องแจ้งยอดหนี้ เป็นเงินต้นกับดอกเบี้ยจนถึงวันไถ่ถอนแก่ธนาคารแห่งใหม่ที่เราไปกู้
4.5 ติดต่อไปยังธนาคารใหม่ นัดวันทำสัญญา+โอนทรัพย์ ที่ใช้จำนองโดยต้องเป็นวันเดียวกับที่นัดกับธนาคารเดิมไว้
4.6 ทำเรื่องโอนที่ สำนักงานที่ดินในเขตที่ของเราตั้งอยู่ ชำระเงินและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้เรียบร้อย บางธนาคารอาจจะนำสัญญาไปให้เราเซ็นที่สำนักงานที่ดิน หรือที่สาขา ถ้ามียอดกู้สูงกว่าค่าไถ่ถอน ธนาคารใหม่จะออกเช็คให้เรา 2 ใบ จ่ายให้กับธนาคารเก่า และให้เราเมื่อชำระค่าต่างๆเรียบร้อยแล้ว แล้วก็มอบโฉนดที่ได้มาจากสำนักงานที่ดินให้กับธนาคารแห่งใหม่ที่เราเพิ่งจะเป็นหนี้ อันเป็นการเสร็จสิ้นการโอน
*สิ่งสำคัญที่ควรทราบ ก็คือ ภาระหนี้สินส่วนใหญ่เป็นภาระในระยะยาวทั้งสิ้น ซึ่ง กุญแจ สำคัญที่สุด คือ อัตราดอกเบี้ย ถ้าในตลอดอายุสัญญาผ่อนบ้านของเรา อัตราดอกเบี้ยไม่ได้เป็นแบบคงที่ เราควรหมั่นเช็คอัตราดอกเบี้ยจากท้องตลาด ทั้งในขณะปัจจุบัน และ แนวโน้มในอนาคต อีก 2-3 ปีข้างหน้าเป็นอย่างต่ำ ว่าอัตราดอกเบี้ยจะเป็นเช่นไรเพราะถ้าหากมีแนวโน้มสูงขึ้นมากๆ การ รีไฟแนนซ์บ้าน ถึงจะมีค่าปรับในการรีไฟแนนซ์ก่อนกำหนด บางครั้งก็คุ้มค่าแล้ว
.
สิ่งสำคัญที่สุดในการ รีไฟแนนซ์บ้าน ไม่ใช่เพียงแค่การศึกษาข้อมูล หรือขั้นตอน นโยบายต่างๆ ของแต่ละธนาคารเท่านั้น เนื่องจากปัจจัยดังกล่าวล้วนเป็นข้อมูลที่เปิดเผย สามารถเข้าถึงแหล่งค้นหาได้ทั่วไป แต่เป็นการมองดูปัจจัยรอบด้านของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น รายได้ประจำ เงินเก็บ กำลังทรัพย์ แนวโน้มทางการเงิน แนวโน้มหน้าที่การงาน จนไปถึงการคำนวณความสามารถในการผ่อนค่างวดของตน ดอกเบี้ยเท่าไหร่ผ่อนไหว ผ่อนไม่ไหว นานกี่ปี ที่กล่าวมาล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ในการ รีไฟแนนซ์บ้าน เพราะ รีไฟแนนซ์บ้าน จะคุ้มค่าหรือไม่นั้น ต้องคำนวณจากตนเองทั้งสิ้น ข้อมูลหรือความเห็นต่างๆ ในโลกออนไลน์เป็นเพียงเครื่องช่วยประกอบการตัดสินใจ ส่วนเรื่องสถานะทางการเงินนั้น เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลที่ต้องตัดสินใจเอง
.
ติดตามเราเพิ่มเติมได้ที่..
.
– web : https://haabaandee.com/
– Line : https://bit.ly/3GsIH4G
– IG : https://bit.ly/383Dnav
– Tiktok : https://bit.ly/37nIdjd
– Twitter : https://bit.ly/37Y3HDc
– Youtube : https://bit.ly/3ry14yL
– blogspot :https://bit.ly/3t13JBQ
– facebook : https://bit.ly/3ECnnJ7
– blockdit : https://bit.ly/3t13JBQ
– pinterest : https://bit.ly/3sZDSdv
#habbdee, #เว็บไซต์ธุรกิจ, #ธุรกิจ, #เว็บไซต์, #แพลตฟอร์ม, #businessplatform,